สำหรับคนในยุคนี้นั้นเรียกได้ว่า มือถือ ก็เป็นเหมือนกับอวัยวะอีกส่วนหนึ่งของร่างกายไปแล้ว เพราะมันใช้ทั้งติดต่อสื่อสาร ทำงาน และยังใช้เพื่อความบันเทิงได้อีกด้วย จึงไม่แปลกที่ใคร ๆ ต่างก็พากันพกมือถือติดตัวไปไหมาไหนด้วยเสมอ
และมีคนอีกไม่น้อยเลยที่เมื่อรู้ตัวว่าแบตมือถือกำลังจะหมด ก็จะรู้สึกกระวนกระวาย ไม่สบายใจ จึงต้องมีการพกอุปกรณ์สำหรับชาร์จแบตติดตัวไปด้วย แต่สำหรับบางคนที่มีรถยนต์นั้น ก็อาจจะใช้การเชื่อมต่อเพื่อชาร์จแบตมือถือในรถยนต์ได้ แต่ก็มีบางคนที่บอกว่าการทำแบบนี้จะทำให้แบตรถยนต์เสื่อมเร็วขึ้น และไม่สามารถใช้งานได้นานเมื่อเทียบกับการชาร์จแบบปกติ บทความนี้จะมาเล่าให้ฟังกัน
รศ.ธีร เจียศิริพงษ์กุล อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ว่า การชาร์จแบตมือถือในรถนั้นไม่ส่งผลให้แบตเตอรี่รถยนต์ของเราเสื่อมลงได้ เพราะมือถือใช้กำลังไฟไม่สูงมากในการชาร์จ จึงไม่ส่งผลให้แบตรถยนต์เสื่อมลงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ใช้สายชาร์จที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัย
แต่ในปัจจุบันนี้ การเลือกใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไออ้อน และมีวงจรที่ควบคุมการชาร์จในตัว ส่วนอุปกรณ์ Car Charger เป็นแค่เพียงหม้อไฟที่จะทำให้ไฟเข้าเครื่องมีแรงดันตามความต้องการของมือถือ ซึ่งกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในการชาร์จก็จะต่างกันออกไปตามลักษณะของอุปกรณ์ที่ใช้งาน
ชาร์จมือถือบนรถยนต์ให้ปลอดภัย
- ใช้อุปกรณ์สายชาร์จแบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐานทำจากพลาสติกเกรด A ไม่มีรอยต่อ หรือซื้ออุปกรณ์ที่เป็นของแท้มาใช้ ก็จะทำให้สบายใจไม่ต้องคอยกังวลต่ออันตรายในการเกิดไฟรั่วที่ทำให้ไม่ได้มาตรฐานนั่นเอง
- ควรสตาร์ทรถก่อนแล้วค่อยเสียบสายชาร์จ อย่าเสียบสายชาร์จคาไว้เพราะเมื่อเราสตาร์ทเครื่องยนต์จะเกิดกระแสไฟกระชากส่งผลต่อแบตมือถือได้
- อย่าลืมดึงอุปกรณ์ต่อที่ชาร์จโทรศัพท์ออกจากช่องเขี่ยบุหรี่ทุกครั้งก่อนดับเครื่อง
- ไม่ควรเปิดอุปกรณ์ในรถพร้อมกันหลายอย่างขณะที่ชาร์จมือถือในรถเป็นการเพิ่มโอกาสให้เกิดไฟกระชากได้
- ควรพกแบตเตอรี่สำรอง หรือ Power Bank ติดไว้ด้วย ปลอดภัยกว่าแน่นอน และไม่ส่งผลต่อแบตเตอร์รี่มือถือของเรา แต่ไม่แนะนำให้เก็บพาวเวอร์แบงค์เอาไว้บนรถยนต์ เพราะอุณหภูมิและเชื้อเพลิงภายในรถยนต์อาจทำปฏิกิริยากับสารเคมีในตัวเครื่องและเกิดเพลิงไหม้หรือระเบิดได้
การชาร์จแบตมือถือบนรถยนต์เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ไม่มีพื้นที่สำหรับชาร์จแบต หรือต้องเดินทางกับรถยนต์เป็นเวลานาน แนะนำว่าถ้าพอมีเวลา หรือหาปลั๊กเสียบเพื่อชาร์จแบบปกติได้ ก็ควรนำไปชาร์จแบบนั้นจะดีกว่า